>

เทคนิก selected php


เทคนิก selected php




วันนี้ โปรแกรมเมอร์กากกาก จะมานำเสนอ  เทคนิกเล็กน้อยๆของ PHP ในการทำ  เวลาเป็น ชั่วโมงและนาที  เพราะในงานบางงานอาจจะต้องใช้ก็เป็นไปได้   เพราะในการทำงานบางอย่างหรือ Porject บาง Porject อาจจะต้องมีการนำเวลามาคำนวณ ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องแยกถึงขึ้น เวลา เป็นชั่วโมง และนาทีเลยก็เป็นไปได้  อย่าพูดพ่ำทำเพลงกันมาเลยดีกว่านะครับ  เราลองมาดู CODE ตัวอย่างกันเลยดีกว่า

CODE  เทคนิก selected php



<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title>TEST SELECT</title>
</head>

<body>
<form id="form1" name="form1" method="post" >
   <table width="100%" border="0" align="center" id="main_table">
          <tr>
            <td align="center">
             <label> ชั่วโมง : <select name="fhr" id="fhr">
             <option value="">--เลือก--</option>
             <?php 
  for($hr = 0;$hr <=23 ;$hr++){
if(strlen($hr) == 1){
$hr = '0'.$hr;
}?>
             <option value="<?=$hr; ?>"><?=$hr; ?></option>
<?php } ?>  </select></label>
                     
            <label> นาที: <select name="fmin" id="fmin" >
            <option value="">--เลือก--</option>
             <?php
for($min = 0;$min<=59;$min++){
if(strlen($min) == 1 ){
$min = '0'.$min; 
}?>
                <option value="<?=$min;?>"><?=$min;?></option> <?php }  ?>   </select> </label>
            </td>
          </tr>
        </table>
 </form>
</body>
</html>



ผลการรัน CODE เทคนิก selected php





และ






ก็จบไปแล้วนะครับสำหรับ selected php โปรแกรมเมอร์กากกาก ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่กำลังศึกษา PHP หรือ ผู้ที่สนใจนะครับ









PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT



jQuery Effects

jQuery Effects





วันนี้โปรแกรมเมอร์กากกาก จะมานำเสนอ JQuery Effects  กันนะครับ  เราลองมาดูกัน


jQuery Effects  คืออะไร

jQuery Effects  ยกตัวอย่างเช่น การซ่อน(hide) , แสดง(show) , สลับ(toggle) , จางหาย(fade) และเคลื่อนไหว(animate) เป็นต้น

JQueryHide and Show

เราลองมาดูกันแสดงความสามารถของ JQuery ในการซ่อนหรือแสดงอิลิเมนต์ใช้เมธอด hide() และ show() ตามลาดับ

 รูปแบบ JQueryHide and Show
                $(selector).hide(speed,callback)
                $(selector).show(speed,callback)
โดย speedอาจกาหนดเป็น “slow” , “fast” , “normal” หรือเป็นมิลลิวินาที ก็ได้ callback คือ ฟังก์ชันที่จะให้ทางานหลังจากซ่อน หรือ แสดง อิลิเมนต์แล้ว  เราลองมาดู Code JQuery กันเลยดีกว่านะครับ

ตัวอย่างการใช้ JQuery  hide() และ show()


<html>
<head>
<script type="text/javascript" src="jquery.js"></script>
<script type="text/javascript">
$(document).ready(function(){
$("#hide").click(function(){
$("p").hide();
});
$("#show").click(function(){
$("p").show();
});
});
</script>
</head>
<body>
<p>If you click on the "Hide" button, I will disappear.</p>
<button id="hide">Hide</button>
<button id="show">Show</button>
</body>
</html>


jQuery Toggle

jQuery Toggle  ใช้สาหรับสลับการแสดงผลของHTML element ให้ซ่อนหรือแสดง และ  แสดงอิลิเมนต์ที่ถูกซ่อนอยู่ หรือ ซ่อนอิลิเมนต์ที่แสดงอยู่

รูปแบบ jQuery Toggle
                  $(selector).toggle(speed,callback)
โดย speedอาจกาหนดเป็น “slow” , “fast” , “normal” หรือเป็นมิลลิวินาที ก็ได้ callback คือ ฟังก์ชันที่จะให้ทางานหลังจากซ่อน หรือ แสดง อิลิเมนต์แล้ว  เราลองมาดู Code jQuery Toggle กันเลยดีกว่านะครับ

ตัวอย่างการใช้  jQuery Toggle()

<html>
<head>
<script type="text/javascript" src="jquery.js"></script>
<script type="text/javascript">
$(document).ready(function(){
$("button").click(function(){$("p").toggle();
           });
       });
</script>
</head>
<body>
<button>Toggle</button><p>This is a paragraph with little content.</p>
<p>This is another small paragraph.</p> 
</body>
</html>


สำหรับบทความ JQuery Effects   ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะครับหวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจนะครับ















PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT






PHP และ CSS Dynamic HTML Web pages using ตอนที่ 1

PHP และ CSS  Dynamic HTML Web pages using ตอนที่ 1





วันนี้โปรแกรมเมอร์กากกาก  ก็จะขอนำเสนอ PHP และ CSS  Dynamic HTML Web pages using ตอนที่ 1   ลองดูนะครับ  อาจจะเป็นประโยชน์ก็ได้นะครับ  เดียวมาต่อกันในPHP และ CSS  Dynamic HTML Web pages using ตอนที่ 2 นะครับ












PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT

JQuery คือ

JQuery คือ 







          JQuery คือ ไลบรารีของโค้ดจาวาสคริปต์ (JavaScript Library)ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเว็บไซต์ JQuery ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการสร้างสีสันลูกเล่นต่างๆ ให้แก่เว็บไซต์ โดยที่ผู้พัฒนาไม่ต้องเสียเวลาในการพัฒนาโค้ดโปรแกรมให้ยุ่งยากซับซ้อนเหมือนแต่ก่อน และช่วยให้เราเรียกเขียนหรือใช้งานจาวาสคริปต์ และ Ajax ให้ง่ายขึ้น หรือจะเขียน JavaScript เพื่อดัก Event (เหตุการณ์) ต่างๆ ที่ต้องการ เช่น การ click, rollover, mouse
          JQuery เปิดตัวครัง้ แรกในงานบาร์แคมป์นิวยอร์ก โดย จอห์น เรซิก(John Resig) เมื่อวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2549 ตัวโค้ดของ JQuery มีลิขสิทธิ์และสัญญาอนุญาตแบบ Open Source โดยใช้สัญญาอนุญาตของ GFDL และ MITLicense


ความสามารถของ JQuery

1. ใช้งาน DOM element โดยการเขียนไม่ Jquery  จำเป็นต้องยึดติดกับ browser
2. จัดการกับ Event เพิ่ม Event ลงในหน้าเว็บ  ตามแต่ใจต้องการ
3. สามารถจัดการกับCSS (style sheet) ของ element นั้นๆได้
4. สามารถใส่ Effects and สร้าง Animations ลูกเล่นบนหน้าเว็บได้
5. ช่วยให้เขียน Ajax ได้ง่ายขึ้นทำให้ประหยัด เวลาในการเขียน Ajax และทำให้โค้ดสัน้ ลง
6. ทำ Effect ต่างๆกับ Element ที่เราต้องการ เช่น การ hide DIV ที่เราต้องการ
7. ค้นหา element ที่เราต้องการและจัดการ เพิ่ม หรือลบ Attributes ที่เราต้องการได้





ตัวอย่างเว็บไซต์ของ JQuery

• http//:www.jquery.in.th/
• http://www.jquery.com/
• http//:www.select2web.in.th/
• http//:www.jquerytips.com/
• http://www.blog.iemem.com/category/jquery/


Jquery ใช้งานร่วมกับโปรแกรมใดได้บ้าง

1. PHP 2. JSP
3. PERL 4. ASP
5. VB.Net 6. HTML
7. CSS 8. XML


โปรแกรมเมอร์กากกากขอจบไว้แค่นี้ก่อนนะครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ทีสนใจนะครับ











PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT


VB 2008 โปรแกรมดูทีวีออนไลน์

VB 2008 โปรแกรมดูทีวีออนไลน์




วันนี้โปรแกรมเมอร์กากกากจะมานำเสนอการเขียนโปแกรมดูทีวีออนไลน์ด้วย VB 2008  สำหรับท่านที่ต้องการตดตั้งโปรแกรมดูทีวีออนไลนื  เราลองมาดูกันเลยนะครับ  ขออนุญาต  นำเสนอเป็นคลิปนะครับ  ขอบคุณเจ้าของคลิปด้วยนะครับ







หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจนะครับ















PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT







CSS + HTML พื้นฐาน


CSS + HTML พื้นฐาน



โปรแกรมเมอร์กากกาก จะมานำเสนอ CSS พื้นฐาน หรือหน้า mail หลักกันนะครับ  ลองมาดู Code กันเลยดีกว่า  

Code CSS พื้นฐาน


*{
margin: 0px;
padding: 0px;
font: 12px verdana;

}
h1{
font: bold 20px verdana;

}
h2{
font: bold 14px verdana;

}
body{
width: 100%;
display: -webkit-box;
-webkit-box-pack: center;

}
#wrapper{
width: 1000px;
margin: 10px auto;
display: -webkit-box;
-webkit-box-orient:vertical;
-webkit-box-flex: 1;
}
header{
background: green;
border: 2px solid red;
padding: 20px;
}
nav{
background: blue;
color: white;

}
nav li{
display: inline-block;
list-style: none;
padding: 5px;
color: white;
font: bold 14px verdana;

}
#sec_wrapper{
display: -webkit-box;
-webkit-box-orient: horizontal;
border:2px solid blue;



}
section{
/*border: 2px solid blue;*/
-webkit-box-flex: 1;
margin: 10px;
padding: 10px;
}
aside{
background: gray;
width: 220px;
margin: 0px;
text-align:center;
}
article{
padding: 10px;
margin-bottom: 10px;
font-size; 12px;




}
article header{
background: white;
padding: 0px;
border:none;
}
article footer{
text-align: right;
padding-right: 10px;
border: none;
background:none;
}
footer{
text-align: center;
padding: 20px;
font-size: 9px;
background: red;
}


มาดู Code ส่วนของ HTML 5 กันหน่อยนะครับ




<!DOCTYPE html>
<html>
<head>
<meta charset="utf-8"/>
<title>First Do</title>
<link rel = "stylesheet" href = "main.css" type="text/css"/>
</head>
<body>
<div id = "wrapper">
<header>
<h1> ยินดีตอนรับสู่ เว็บ อารมภ์ศิลป์</h1>
</header>
<nav>
<ul>
<li> หน้าแรก </li>
<li> ผลงาน </li>
<li> ช่องทางชำระเงิน </li>
<li> ติดต่อเรา </li>
</ul>
</nav>
<div id="sec_wrapper">
<section>
<article>
<header>
<hgroup>
<h1> ข่าวกีฬา </h1><br/>
<h2>โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักหวดหมายเลข 1 ของโลก </h2><br/>
</hgroup>
<p>
โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ อดีตนักหวดหมายเลข 1 ของโลก เตรียมจับแร็กเก็ตใหม่ลงเช็กฟอร์มอีกครั้ง ในศึกเทนนิส รายการ "สวิส โอเพน" ที่เมืองกัสตาด ประเทศบ้านเกิด ในวันพุธนี้ พร้อมชี้ว่ารู้สึกผ่อนคลายไม่ต้องเครียดมากหลังจากได้กลับมาแข่งที่นี่อีกครั้ง
นักเทนนิสจอมเก๋าวัย 31 ปี เพิ่งถูก เฟเดริโก เดลโบนิส จากอาร์เจนตินา เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศในรายการที่ฮัมบูร์ก เมื่อสัปดาห์ก่อน เตรียมกลับมาลงแข่งรายการ "สวิส โอเพน" ที่เมืองกัสตาด สวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ พร้อมเป็นการลงทดสอบแร็กเก็ตใหม่ต่อเนื่องที่เปลี่ยนจากขนาดเดิม 90 ตารางนิ้วเป็น 98 ตารางนิ้ว เพื่อสร้างความคุ้นเคยและความมั่นใจมากขึ้นก่อนไปแข่งรายการ มอนทรีออล มาสเตอร์ส ที่แคนาดา
"แร็กเก็ตนี้เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ได้ไมกี่เดือน เราต้องทำความคุ้นเคยกับมัน ผมพยายามหารูปแบบในรุ่นที่ชอบมากที่สุดและผมจะลงเล่นในรายการที่กัสตาดด้วยแร็กเก็ตนี้ แผนของผมคือการเดินหน้าต่อไปพร้อมเจ้าไม้เทนนิสตัวใหม่นี้" เจ้าของแชมป์แกรนด์แสลม 17 รายการ กล่าว
นอกจากนี้ "เฟดเอ็กซ์" ได้เผยว่าเขารู้สึกผ่อนคลายมากกับการเดินทางมาทัวร์นาเมนต์นี้ "กัสตาดเป็นรายการที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆ คุณอาจจะอยากมาที่นี่ก่อนสัก 6 สัปดาห์เผื่อเตรียมตัว ผมมาที่นี้ด้วยความผ่อนคลาย และแม้จะมีประสบการณ์ที่นี่ไม่มากแต่ผมจะได้แสดงออกมาแน่นอน"
สำหรับ เฟเดอเรอร์ ถูกจัดให้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการและเตรียมลงแข่งขันในรอบที่ 2 รอพบกับ ดาเนียล แบรนด์ส จากเยอรมนีในวันพุธที่ 24 ก.ค. นี้ หลังจากได้สิทธิ์บายในรอบแรก
</p>
<footer>My name is ping</footer>
</header>
</article>
</section>
<aside>
<h4>I love my dog.</h4>
<p> It name's esy </p>
</aside>
</div>
<footer> Copy Right 2012 - by ping</footer>
</div>
</body>
</html>


ก็ลองเอาไปทดสอบกันดูนะครับ  ทางโปรแกรมเมอร์กากกาก หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้ที่สนใจนะครับ










PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT

PHP OOP ตอนที่ 2


PHP OOP  ตอนที่  2





PHP  OOP ตอนที่ 2  นี่นะครับ โปรแกรมเมอร์กากกาก ก็จะกล่าวต่อจากบทความที่แล้วคือ PHP OOP ตอนที่  1 นะครับ    คือเราจะพูดต่อจาก Code ชุดที่แล้วนะครับ  เราจะมีการปรับปรุงให้คุณสมบัติใหม่ เพื่อไม่ให้มีการเกิดการผิดเพี้ยนไปนะครับ  คือหมายถึงว่า ถ้าดูจาก Code ชุดที่ 1 นั้น  จะมีให้เลือกเพียงเพศคือ 1 และ 2 ถ้าเราใส่คุณสมบัติไม่ตรงตามนั้นก็จะทำให้ค่าผิดเพี้ยนออกไป  เราลองมาดู Code กันเลยดีว่านะครับ


ตัวอย่าง Code PHP OOP ตอนที่  2


<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title>TEST PHP OOP 2</title>

   class human {
   var $name = “human”;// default name = “human”
   var $Sex= 1; // default = 1 and 1 = male, 2 = female
   var $height = 0; // height > 0
   var $weight = 0; // weight > 0
   var $age = 0; // age > 0
   function setName($value = 'human'){
   $this->name = $value;
   }
   function setSex($value = 1){
   $this->Sex = ($value == 1 || $value == 2 ? $value : 1);
   }
   function setHeight($value = 1){
   $this->height = ($value > 0 ? $value : 1 );
   }
   function setWeight($value = 1){
   $this->weight = ($value > 0 ? $value : 1 );
   }
   function setAge($value = 1){
   $this->age = ($value > 0 ? $value : 1 );
   }
   function getName(){
   return $this->name;
   }
   function getSex(){
   return ($this->Sex == 1 ? 'male' : 'female');
   }
   function getHeight(){
   return $this->height;
   }
   function getWeight(){
   return ($this->Sex == 2 ? 'No Answer' : $this->weight);
   }
   function getAge(){
   return ($this->Sex == 2 ? 'No Answer' : $this->age);
   }
   }




</head>

<body>
  $somsak = new human();
  $somsak->setName('Somsak');
  $somsak->setSex(); //<---- data-blogger-escaped-somsak-="">setHeight(178);
  $somsak->setWeight(65);
  $somsak->setAge(28);
  echo 'Name : '.$somsak->getName().'
';
  echo 'Sex : '.$somsak->getSex().'
';
  echo 'Height : '.$somsak->getHeight().'
';
  echo 'Weight : '.$somsak->getWeight().'
';
  echo 'Age : '.$somsak->getAge().'
';
  $somying = new human();
  $somying->setName('Somying');
  $somying->setSex(2);
  $somying->setHeight(168);
  $somying->setWeight(48);
  $somying->setAge(25);
  echo 'Name : '.$somying->getName().'
';
  echo 'Sex : '.$somying->getSex().'
';
  echo 'Height : '.$somying->getHeight().'
';
  echo 'Weight : '.$somying->getWeight().'
';
  echo 'Age : '.$somying->getAge().'
';



</body>
</html>


ผลการรัน Code PHP OOP ตอนที่ 2 


Name : Somsak
Sex : male
Height : 178
Weight : 65
Age : 28
Name : Somying
Sex : female
Height : 168
Weight : No Answer
Age : No Answer


จะเห็นได้ว่าคำสั่ง $somsak->setSex() นั้นไม่ได้ใส่ค่าเริ่มตอน  แต่ผลการทำงานก็จะเป็น male เช่นเดิม เนื่องจากเราได้กำหนดค่าเริ่มต้นของพารามิเตอร์ของพฤติกรรมดังกล่าว  ซึ่งช่วยให้ข้อมูลต่างๆนั้นยังคงมีความถูกต้อง ในบางกรณีทำให้โปรแกรมทำงานไม่ผิดพลาดจากที่ควรจะเป็นในขั้นตอนนั้น ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้นะครับ  ไว้มาต่อกันในตอนต่อไปสำหรับ PHP OOP











PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT


PHP OOP ตอนที่ 1


PHP OOP ตอนที่ 1





วันนี้ โปรแกรมเมอร์กากกาก  จะมานำเสนอวิธีการเขียน PHP OOP ก่อนอื่น เราลองมาทำความรู้จัก PHP OOP ว่ามันคืออะไรกันก่อนนะครับ


PHP OOP  คือ


PHP OOP  หรือ (Object Oriented Programming) ซึ่งเป็นการเขียนโปรแกรมเชิกวัตถุ   โดยการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุนั้น  เป็นการเขียนโปรแกรมให้เข้าใกล้การดำเนินไปตามสภาพแวดล้อมตามความเป็นจริงของโลกเรา  อาทิเช่น  สิ่งที่เกิดขึ้นมักเกิดขึ้นจากแม่แบบ (Class)  ซึ่งแม่แบบจะมีสิ่งจำเป็นอยู่สองสิ่งคือ คุณสมบัติ (Properties)  และแบบแผนพฤติกรรม (Method Behavior หรือ  Method)  เช่น  มนุษย์  มีคุณสมบัติคือ  ชื่อ  ความสูง  น้ำหนัก เพศ อายุ  มีพฤติกรรมคือ  การกิน นอนหลับ  วิ่งสองขา  เดินสองขา  นี่คือแม่แบบคร่าวๆของมนุษย์  และเมื่อมองเป็น  Oject จาก แม่แบบ (Class)  จะได้ดังรูปต่อไปนี้




พอจะนึกภาพกันออกแล้วใช่ไหมครับ  งั้นเรามาลองดู Code กันเลยดีกว่า


ตัวอย่าง Code PHP OOP


<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title>Test OOP PHP 1</title>

  class human {
  var $name = “human”;// default name = “human”
  var $sex = 1; // default = 1 and 1 = male, 2 = female
  var $height = 0; // height > 0
  var $weight = 0; // weight > 0
  var $age = 0; // age > 0
  function showName(){
  return $this->name;
  }
  function showSex(){
  return $this->sex;
  }
  function showHeight(){
  return $this->height;
  }
  function showWeight(){
  return ($this->sex == 2 ? 'No Answer' : $this->weight);
  }
  function showAge(){
  return ($this->sex == 2 ? 'No Answer' : $this->age);
  }
  }




</head>

<body>

     $somsak = new human();
     $somsak->name = 'Somsak';
     $somsak->sex = 1;
     $somsak->height = 178;
     $somsak->weight = 65;
     $somsak->age = 28;
     echo 'Name : '.$somsak->showName().'
';
     echo 'Sex : '.$somsak->showSex().'
';
     echo 'Height : '.$somsak->showHeight().'
';
     echo 'Weight : '.$somsak->showWeight().'
';
     echo 'Age : '.$somsak->showAge().'
';
     echo '--------------------------------------
';
     $somying = new human();
     $somying->name = 'Somying';
     $somying->sex = 2;
     $somying->height = 168;
     $somying->weight = 48;
     $somying->age = 25;
     echo 'Name : '.$somying->showName().'
';
     echo 'Sex : '.$somying->showSex().'
';
     echo 'Height : '.$somying->showHeight().'
';
     echo 'Weight : '.$somying->showWeight().'
';
     echo 'Age : '.$somying->showAge().'
';







</body>
</html>


ผลการรัน Code PHP OOP 


Name : Somsak
Sex : 1
Height : 178
Weight : 65
Age : 28
--------------------------------------
Name : Somying
Sex : 2
Height : 168
Weight : No Answer
Age : No Answer


ก็จบไปแล้วนะครับ สำหรับอีก 1 บทความของโปรแกรมเมอร์กากกาก  หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจนะครับไม่มากก็น้อย  ไว้ติดตามบทความ PHP OOP ตอนต่อไปนะครับ












PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT




สอนทำตัว Setup VB 2008


สอนทำตัว Setup VB 2008

เอาเป็นว่าเรามาดูคลิป กันเลยดีกว่านะครับ เพราะคงทำเป็น Code ไม่ได้ ต้องขอขอบคุณจ้าของคลิปด้วยนะครับ

สอนทำตัว Setup VB 


 


  โปรแกรมเมอร์กากกากหวังว่า  คลิป สอนทำตัว Setup VB  คงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ

 








PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT

  

 




PHP connect Database และ Select ข้อมูล ฉบับเบื่้องต้น

PHP connect Database และ Select ข้อมูลเบื่้องต้น



Select Database


วันนี้ โปรแกรมเมอร์กากกาก จะมานำเสนอ PHP connect Database และ Select ข้อมูลเบื่้องต้น  เราลองมาดู Code กันเลยดีกว่านะครับ


Code   PHP connect Database และ Select ข้อมูลเบื่้องต้น




<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title>Untitled Document</title>
</head>

<body>
<?php 
mysql_connect("localhost","root","root") or die ("ไม่สามาติดต่อได้");
mysql_select_db("data_student");
mysql_query("SET NAMES UTF8");//ให้รู้จักว่าเป็น utf8


$sql = "SELECT * FROM student;";
$result = mysql_query($sql);
if(!$result){
echo "ผิดพลาดในการอ่านฐานข้อมูล";

}
else if(mysql_num_rows($result)==0){
echo "ไม่มี่ฐานข้อมูล";
}
else {
echo "<table border=1 cellpadding=3>";
while ($data = mysql_fetch_array($result)) {
echo "<tr>";
echo "<td>{$data['id_student']}</td><td>{$data['name']}</td>
          <td>{$data['lastname']}</td> <td>{$data['address']}</td>
 <td>{$data['id_teacher']}</td>";
echo "</tr>";
}

echo "</table>";
}
?>

</body>
</html>



ก็จบไปแล้วนะครับ ทางโปรแกรมเมอร์กากกาก หวังว่าบทความ PHP connect Database และ Select ข้อมูลเบื่้องต้น  จะเป็นประโยชน์ต่อท่านที่กำลังศึกษา PHP ไม่มากก็น้อยครับ











PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT

vb 2008 connect database oracle

vb 2008 connect database oracle


vb 2008 connect database  oracle


วันนี้ โปรแกรมเมอร์กากกาก  จะมาบอกถึงวิธีการที่ vb 2008 connect database oracle  ไม่พูดมากนะครับเราลองมาดู code กันเลยดีกว่า

code vb 2008 connect database oracle




Public oradb As String = "Data Source=(DESCRIPTION=" _
       + "(ADDRESS_LIST=(ADDRESS=(PROTOCOL=TCP)(HOST=203.158.193.83)(PORT=1521)))" _
       + "(CONNECT_DATA=(SERVER=DEDICATED)(SERVICE_NAME=ORCL)));" _
       + "User Id=hr;Password=hr;"
    Public UserID As String = "hr"
    Public Password As String = "hr"
    Public DataSource As String = "203.158.193.83:1521/orcl"



code ข้างบนนี้ เขียนไว้ข้างใน Module ให้ สร้าง Module ขึ้นมาใหม่แล้วก็ วาง code นี้ไปนะครับ  ส่วนชื่อ database และ port ต่างๆ ก็เอาตามของท่านนะครับ อันนี้เรายกตัวอย่างเฉยๆนะครับ


การนำไปใช้


Dim conn As New OracleConnection(oradb)
        Dim sb As New System.Text.StringBuilder

        If txtEmployeeID.Text.Trim = "" Then
            txtEmployeeID.Focus()
            Exit Sub
        End If

        Try
            conn.Open()

            Dim sql As String = "SELECT MANAGER_ID FROM DEPARTMENTS WHERE DEPARTMENT_ID = " & cbDepartment.SelectedValue
            Dim cmd As New OracleCommand(sql, conn)
            cmd.CommandType = CommandType.Text

            '### BEGIN ### ใช้สำหรับค้นหา MANAGER_ID จากตาราง DEPARTMENTS
            Dim MANAGER_ID As Integer
            Dim dr As OracleDataReader = cmd.ExecuteReader()
            dr.Read()
            MANAGER_ID = dr.Item("MANAGER_ID")    ' retrieve by column name
            dr.Close()
            '### END ### 

            '### BEGIN ### ใช้สำหรับแปลงค่าข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบวันที่ 
            Dim HireDate As DateTime = Convert.ToDateTime(dtHiredate.Value)
            '### END ### 

            sb.Remove(0, sb.Length) ' clear stringBuilder

            sb.Append("INSERT INTO ")
            sb.Append(" EMPLOYEES(EMPLOYEE_ID, FIRST_NAME, LAST_NAME, EMAIL, PHONE_NUMBER, HIRE_DATE, JOB_ID, SALARY, COMMISSION_PCT, MANAGER_ID, DEPARTMENT_ID)")
            sb.Append(" VALUES(:EMPLOYEE_ID, :FIRST_NAME, :LAST_NAME, :EMAIL, :PHONE_NUMBER, :HIRE_DATE, :JOB_ID, :SALARY, :COMMISSION_PCT, :MANAGER_ID, :DEPARTMENT_ID)")

            sql = sb.ToString

            cmd.CommandText = sql

            With cmd
                .Parameters.Clear()
                .Parameters.Add(":EMPLOYEE_ID", OracleDbType.Int32).Value = txtEmployeeID.Text.Trim
                .Parameters.Add(":FIRST_NAME", OracleDbType.Varchar2).Value = txtFname.Text.Trim
                .Parameters.Add(":LAST_NAME", OracleDbType.Varchar2).Value = txtLname.Text.Trim
                .Parameters.Add(":EMAIL", OracleDbType.Varchar2).Value = txtEmail.Text.Trim
                .Parameters.Add(":PHONE_NUMBER", OracleDbType.Varchar2).Value = txtTelephone.Text.Trim
                .Parameters.Add(":HIRE_DATE", OracleDbType.Date).Value = HireDate
                .Parameters.Add(":JOB_ID", OracleDbType.Varchar2).Value = cbJobs.SelectedValue
                .Parameters.Add(":SALARY", OracleDbType.Decimal).Value = txtSalary.Text.Trim
                If txtCommission.Text.Length = 0 Then
                    .Parameters.Add(":COMMISSION_PCT", OracleDbType.Decimal).Value = Nothing  ' กรณีไม่มีค่า Commission
                Else
                    .Parameters.Add(":COMMISSION_PCT", OracleDbType.Decimal).Value = txtCommission.Text.Trim
                End If                
                .Parameters.Add(":MANAGER_ID", OracleDbType.Int32).Value = MANAGER_ID
                .Parameters.Add(":DEPARTMENT_ID", OracleDbType.Int32).Value = cbDepartment.SelectedValue

                If .ExecuteNonQuery() = 1 Then
                    MessageBox.Show("เพิ่มข้อมูลพนักงานเรียบร้อย", "Add new Completed...", MessageBoxButtons.OK, MessageBoxIcon.Information)
                Else ' เท่ากับ ศูนย์ คือ ทำงานไม่สำเร็จ
                    MessageBox.Show("ไม่สามารถเพิ่มข้อมูลพนักงานได้", "Problem...", MessageBoxButtons.OK, MessageBoxIcon.Information)
                End If

            End With

        Catch ex As Exception
            MessageBox.Show(ex.Message.ToString())
        Finally
            conn.Dispose()
        End Try




อย่าลืม  Imports Oracle.DataAccess.Client  มาด้วยนะครับ  บทความนี้ก็ขอจบไว้แค่นี้นะครับ  ฝากไว้ด้วยแล้วกันสำหรับ vb 2008 connect database oracle








PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT

javascript เช็ค Email ไม่ถูกต้อง

javascript เช็ค Email ไม่ถูกต้อง


javascript เช็ค Email


วันนี้  โปรแกรมเมอร์กากกาก  จะมานำเสนอ Javascript เช็ค Email   กันนะครับ  เราลองมาดูกันเลยดีกว่า

Code  javascript เช็ค Email 



<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />







<title>PHP Check Email</title>
</head>

<body>
<form name="form" action="index.php" onSubmit="return checkemail()"><--!เรียกใช้ function-->
ใส่อีเมล์: <input type="text" name="text1"><--! ชื่อที่ใช้ในการอ้างอิงเพื่อเช็คค่า
<input type="submit" value="Submit">
</form>
</body>
</html>


ก็มีแค่นี้นะครับสำหรับ Code แบบกากกากของเรา เพื่อนลองเอาไปประยุกต์ใช้กันนะครับ ขอจบไว้แค่นี้แล้วกัน  กับบทความ javascript เช็ค Email ไว้พบกันในบทความต่อๆไปนะครับ











PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT




ป้ายกำกับ

การใช้ PHP ติดต่อฐานข้อมูล MYSQL ในรูปแบบ Class เขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ทิคนิคทำ Flash Drive ปลอดจากไวรัส Computer เทคนิก การสลับสีตารางด้วย PHP เทคนิก selected php โปรแกรมเมอร์หมายถึง พิกัด ค่า latitude และ longitude ใน Google Map จากการคลิก รวมคำสั่ง Dos ละติจูดลองติจูด วิธทำให้ computer boot windows 7 เร็วขึ้น วิธีการแชร์อินเตอร์เน็ต(Internet) Wireless วินโดว์ 7(Windows 7) วิธีแก้ไวรัส ซ่อนไฟล์ แฟลชไดรฟ์ วิธีแก้ IDM(INTERNET DOWLOAD MANAGER)เด้งฟ้อง เด้งเตือน วิธีแชร์ปริ้นเตอร์บนวินโดว์8 (windows8) วิธีทำ Flashdrive boot Windows จากไฟล์ ISO วิธีล้างหัวพิมพ์ printer canon วิธีส่ง อีเมล์ ด้วย PHP (PHP Send email) สอนทำตัว Setup VB 2008 add printer ไม่ได้ และ Printer Error boot windows 7 เร็วขึ้น computer CSS CSS เบื้องต้น (การใช้ Css เพื่อให้ Table ดูดีขึ้น) CSS พื้นฐาน Flash Drive HTML IDM IT javascript Javascript เช็คค่าตัวเลข Javascript เช็คค่าว่าง javascript เช็ค Email ไม่ถูกต้อง javascript หาตำแหน่ง ละติจูด ลองติจูด ปัจจุบันที่เราอยู่ JQuery JQuery คือ jquery เช็คค่าว่าง Jquery dialog or popup(เจคิวรี่ ไดอะล็อก หรือ ป๊อปอัพ) JQuery dynamic texbox jQuery Effects PHP PHP เบื้องต้น PHP และ CSS Dynamic HTML Web pages using ตอนที่ 1 PHP connect Database และ Select ข้อมูลเบื้องต้น PHP DELETE ข้อมูล PHP MySQL กับ Login Form แบบใช้ session PHP OOP PHP upload รูปภาพ printer sharing printer SQL SQL สร้างฐานข้อมูล VB VB 2008 โปรแกรมดูทีวีออนไลน์ vb 2008 connect database oracle Windows Windows7 แก้ปัญหา Set Printer