>

SQL สร้างฐานข้อมูล

SQL สร้างฐานข้อมูล



บทความนี้ต่อจากบทความที่แล้วนะครับ  เพราะบางท่านอาจจะสงสัยว่าสร้างฐานข้อมูลยังไงบางคนที่รู้แล้วก็ไม่เป็นไรนะครับ  งั้นเรามาดูกันเลยดีกว่า

เริ่มจากเข้าไปที่  http://localhost/phpmyadmin  จะได้หน้าตาดังนี้นะครับ



Sql login


จากนั้นก็ให้ใส่รหัสของ phpmyadmin ของเพื่อนๆแต่ละท่านนะครับ  จากนั้นก็จะเข้าสู่หน้า  



phpmyadmin

จากนั้นให้คลิกที่รูป บ้าน ที่ผมวงกลมไว้สีแดงนะครับ  ก็จะเข้าสู่หน้าดังนี้



phpmyadmin

ก็กำหนดรูปแบบและตั้งชื่อตารางฐานข้อมูลดังวงกลมสีแดงนะครับ  หรือจะตั้งเป็นชื่ออ่านก็ได้ จากนั้นจะได้ดังนี้


phpmyadmin


แล้วให้คลิกที่ SQL   และให้ Copy  Code ต่อไปนี้ไปว่างในช่าง จะได้


CREATE TABLE `image` (
  `id` int(11) NOT NULL auto_increment,
  `image` tinytext NOT NULL,
  PRIMARY KEY  (`id`)
) ENGINE=MyISAM  DEFAULT CHARSET=utf8 AUTO_INCREMENT=7 ;







phpmyadmin


และคลิกปุ่มลงมือ  ก็จะเป็นอันเสร็จจะได้ดังนี้


phpmyadmin



ก็จบไปนะครับสำหรับบทความ SQL สร้างฐานข้อมูล  โดยโปรแกรมเมอร์กากๆ








PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT










PHP upload รูปภาพ

PHP  upload รูปภาพ


php Upload รูปภาพ


วันนี้  โปรแกรมเมอร์กากๆ  จะมานำเสนอเกี่ยวกับ php upload รูปภาพ  เราลองมาดู code กันเลยนะครับ (อย่างที่บอกนะครับ dreamweaver  ในการเขียน code อาจจะยุ่งๆหน่อย  มาดูกันเลยนะครับ


Code PHP upload รูปภาพ



<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title>Untitled Document</title>
</head>

<body>
<form action="" method="post" enctype="multipart/form-data" name="form1" id="form1">
<input type="file" name="file" />
<input type="submit" name="Submit" value="อัปรูป" />
<input name="hidAction" id="hidAction" type="hidden" value="Add">
</form>
</body>
</html>

<?php
if($hidAction == "Add") {                            //เช็คค่า hidAction ที่ส่งมาถ้าเท่ากับ Add ให้โปรแกรทำงานต่อ
    $date = date("U");                                  // สร้าเลข 10 หลักมาจากเวลาเพื่อนำไปเป็นชื่อรูปภาพ
    if($file != "") {
        $type = getimagesize($file);            // หาประเภทของรูปภาพ
        if($type[2] == 1) {
            $image = $date."_img.gif";          // เมื่อรูปเป็น .gif
        } else if($type[2] == 2) {
            $image = $date."_img.jpg";         // เมื่อรูปเป็น .jpg
        }
        else  {
            $image = $date."_img.bmp";      // เมื่อรูปเป็น .bmp
        }
     
        copy($file, "images/$image");           // copy รูปไว้ในโฟลเดอร์ image
        chmod("images/$image", 0777);     // ทำการ changmode
    }
                                       
    $host="localhost"; //ส่วนในการติดต่อฐานข้อมูล
    $db_username="root";
    $db_password="root";
    $dbname="test";                
    $connect = mysql_connect($host,$db_username,$db_password);
    if(!$connect){
        echo "ไม่สามารถติดต่อฐานข้อมูลได้"; exit();
    }
    
    $sql = "insert into image (id, image) values ('', '$image') ";  //เพิ่มข้อมูลลงดาต้าเบส โดยเก็บชื่อรูปไว้
    $dbquery = mysql_db_query($dbname, $sql);
}
?>



จาก Code ข้างบนนะครับ  จะเห็นได้ว่าเรามีการเก็บรูปไว้ 2 ที่ คือ  1  เก็บไว้ใน โฟลเดอร์ images ในโฟลเดอร์ที่สร้างไว้   ซึ่งอยู่ในส่วน   copy($file, "images/$image");       chmod("images/$image", 0777);    ซึ่งเราจะต้องไปสร้างโฟลเดอร์ images ก่อนนะครับไม่งั้นมันจะ Error  ซึงในที่นี้ผมได้สร้างไว้ที่ C:\AppServ\www\test\images  ซึ่งอยู่ใน โฟล์เดอร์เดียวกันกับไฟล์ upload.php   และส่วนที่  2 จะเป็นการเก็บไว้ที่ Database ซึ่งมีชื่อว่า test  ในตารางที่ชื่อว่า image  ซึ่งในที่นี้ถ้าใครยังไม่มี Database ให้ไปสร้างได้ดังนี้


Code SQL สร้างฐานข้อมูล  (สงสัย คลิก  )



CREATE TABLE `image` (
  `id` int(11) NOT NULL auto_increment,
  `image` tinytext NOT NULL,
  PRIMARY KEY  (`id`)
) ENGINE=MyISAM  DEFAULT CHARSET=utf8 AUTO_INCREMENT=7 ;



และบทความนี้ก็ได้จบลงแล้วนะครับสำหรับวิธีการ upload รูปภาพ ด้วย PHP Upload รูปภาพ








PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT



รวมคำสั่ง Dos

รวมคำสั่ง Dos



รวมคำสั่ง Dos

บทความนี้ โปรแกรมเมอร์กากกาก ได้รวบรวมคำสั่ง Dos เอาไว้ในบทความนี้  เรามาลองดูกันเลย

อธิบายเกี่ยวกับ Dos เล็กน้อย

ความจำเป็นในการใช้ (Dos) ยังคงมีอยู่ แม้ว่าในปัจจุบันบทบาทของมันจะเริ่มลดลงไปมากหลังจาก Windows เริ่มมีความสมบูรณ์และมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งดอสเลย แต่ถ้าเมื่อไรเครื่องของคุณยังไม่มี Windows หรือเข้าไปใช้งาน Windows ไม่ได้ คำสั่งดอสก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะการใช้คำสั่งดอสจะช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้เช่นการ การซ่อมแซมไฟล์ที่เสีย ก๊อปปี้ไฟล์ข้อมูล แก้ปัญหา Bad Sector ฯลฯ ดังนี้เราควรทราบคำสั่งบางคำสั่งที่จำเป็นไว้บ้างเพื่อนำไปใช้งานในยามฉุกเฉิน
Dos ย่อมาจาก Disk Operating System เป็นระบบปฎิบัติการรุ่นแรก ๆ ซึ่งการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์จะมีการทำงานบนระบบปฎิบัติการดอสเป็นหลัก โดยการทำงานส่วนใหญ่จะเป็นการทำงานโดยการใช้คำสั่งผ่านบรรทัดคำสั่ง (Command Line) ที่นิยมใช้กันคือ MS-Dos ซึ่งต่อมาระบบปฎิบัติการดอสจะถูกซ่อนอยู่ใน Windows ลองมาดูกันว่าคำสั่งไหนบ้างที่เราควรรู้จักวิธีใช้งาน

CD คำสั่งเข้า-ออก ในไดเร็คทอรี่

CD (Change Directory) เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเปลี่ยนไดเร็คทอรี่ในโหมดดอส เช่น ถ้าต้องการรัน คำสั่งเกมส์ที่เล่นในโหมดดอส ซึ่งอยู่ในไดเร็คทอรี MBK ก็ต้องเข้าไปในไดเร็คทอรีดังกล่าวเสี่ยก่อนจึงจะรันคำสั่งเปิดโปรแกรมเกมส์ได้
รูปแบบคำสั่ง
CD [drive :] [path]
CD[..]
เมื่อเข้าไปในไดเร็คทอรีใดก็ตาม แล้วต้องการออกจากไดเร็คทอรีนั้น ก็เพียงใช้คำสั่ง CD\ เท่านั้นแต่ถ้าเข้าไปในไดเร็คทอรีย่อยหลาย ๆ ไดเร็คทอรี ถ้าต้องการออกมาที่ไดรว์ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ให้ใช้คำสั่ง CD\ เพราะคำสั่ง CD.. จะเป็นการออกจากไดเร็คทอรีได้เพียงลำดับเดียวเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

CD\ กลับไปที่ Root ระดับสูงสุด เช่น ถ้าเดิมอยู่ที่ C:\>docs\data> หลังจากใช้คำสั่งนี้ก็จะย้อนกลับไปที่ C:\ >
CD.. กลับไปหนึ่งไดเร็คทอรี เช่น ถ้าเดิมอยู่ที่ C:\windows\command> หลังจากนั้น ใช้คำสั่งนี้ก็จะก็จะย้อนกลับไปที่ C:\windows>

CHKDSK (CHECK DISK) คำสั่งตรวจเช็คพื้นที่ดิสก์
CHKDSK เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบข้อมูลของหน่วยความจำ และการใช้งานดิสก์หรือฮาร์ดดิสก์ การรายงานผลของคำสั่งนี้จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ไดเร็คทอรี และ FAT ของดิสก์ หรือไฟล์ เพื่อหาข้อมผิดพลาดของการเก็บบันทึก ถ้า CHKDSK พบว่ามี Lost Cluster จะยังไม่แก้ไขใด ๆ นอกจากจะใช้สวิตซ์ /f กำหนดให้ทำการเปลี่ยน Lost Cluster ให้เป็นไฟล์ที่มีชื่อไฟล์เป็น FILE0000.CHK ถ้าพบมากว่า 1 ไฟล์ อันต่อไปจะเป็น FILE0002.CHK ไปเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังสามารถรายงานปัญหาที่ตรวจพบได้อีก อย่างเช่น จำนวน Bad Sector , Cross-ling Cluster (หมายถึง Cluster ที่มีไฟล์มากกว่าหนึ่งไฟล์แสดงความเป็นเจ้าของ แต่ข้อมูลใน Cluster จะเป็นของไฟล์ได้เพียงไฟล์เดียวเท่านั้น)
รูปแบบคำสั่ง
CHKDSK [drive:][[path]filename] [/F] [/V]
[drive:][path] กำหนดไดรว์ และไดเร็ทอรีที่ต้องการตรวบสอบ
filename ชื่อไฟล์ที่ต้องการให้ตรวจสอบ
/F สั่งให้ Fixes Errors ทันทีที่ตรวจพบ
/V ขณะที่กำลังตรวจสอบ ให้แสดงชื่อไฟล์และตำแหน่งของดิสก์บนหน้าจอด้วย
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\WINDOWS>CHKDSK D: ตรวจสอบข้อมูลการใช้งานดิสก์ในไดรว์ D
C:\>CHKDSK C: /F ตรวจสอบ ไดรว์ C พร้อมกับซ่อมแซมถ้าตรวจเจอปัญหา

COPY คำสั่งคัดลอกไฟล์
Copy เป็นคำสั่งที่ใช้ในการคัดลอกไฟล์ จากไดเร็คทอรีหนึ่งไปยังไดเร็คทอรีที่ต้องการ คำสั่งนี้มีประโยชน์มากควรหัดใช้ให้เป็น เพราะสามารถคัดลอกไฟล์ได้ยามที่ Windows มีปัญหา
รูปแบบคำสั่ง
COPY [Source] [Destination]
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\COPY A:README.TXT คัดลอกไฟล์ชื่อ README.TXT จากไดรว์ A ไปยังไดรว์ C
C:\COPY README.TXT A: คัดลอกไฟล์ชื่อ README.TXT จากไดรว์ C ไปยังไดรว์ A
C:\INFO\COPY A:*.* คัดลอกไฟล์ทั้งหมดในไดรว์ A ไปยังไดเร็คทอรี INFO ในไดรว์ C
A:\COPY *.* C:INFO คัดลอกไฟล์ทั้งหมดในไดรว์ A ไปยังไดเร็คทอรี INFO ในไดรว์ C

DIR คำสั่งแสดงไฟล์และไดเร็คทอรีย่อย
เป็นคำสั่งที่ใช้แสดงรายชื่อไฟล์และไดเร็คทอรี คำสั่งนี้ถือเป็นคำสั่งพื้นฐานที่ต้องใช้อยู่เป็นประจำ เพื่อจะได้รู้ว่าในไดรว์หรือไดเร็คทอรีนั้น ๆ มีไฟล์หรือไดเร็คทอรีอะไรอยู่บ้าง
รูปแบบคำสั่ง
DIR /P /W
/P แสดงผลทีละหน้า
/W แสดงในแนวนอนของจอภาพ
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\>DIR ให้แสดงรายชื่อไฟล์ และไดเร็คทอรีทั้งหมดในไดรว์ C
C:\>DIR /W ให้แสดงรายชื่อไฟล์ และไดเร็คทอรีทั้งหมดในไดรว์ C ในแนวนอน
C:\>INFO\DIR /P ให้แสดงรายชื่อไฟล์ และไดเร็คทอรีย่อยในไดเร็คทอรี INFO โดยแสดงทีละหน้า
C:\>INFO\DIR *.TEX ให้แสดงรายชื่อไฟล์ทั้งหมดในไดเร็คทอรี INFO เฉพาะที่มีนามสกุล TXT เท่านั้น
C:\> DIR BO?.DOC ให้แสดงรายชื่อไฟล์ในไดรว์ C ที่ขึ้นต้นด้วย BO และมีนามสกุล DOC ในตำแหน่ง ? จะเป็นอะไรก็ได้
DEL (DELETE) คำสั่งลบไฟล์
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการลบไฟล์ ซึ่งต้องระมัดระวังในการใช้คำสั่งนี้ให้มาก
รูปแบบคำสั่ง
DEL [ชื่อไฟล์ที่ต้องการลบ]
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\>DEL BOS.VSD ลบไฟล์ในไดรว์ C ที่ชื่อ BOS.VSD
C:\>PROJECT\DEL JOB.XLS ลบไฟล์ชื่อ JOB.XLS ที่อยู่ในไดเร็คทอรี PROJEC ของไดรว์ C
D:\>DEL *.TXT ลบทุกไฟล์ที่มีนามสกุล TXT ในไดรว์ D

FDISK ( Fixed Disk)
เป็นไฟล์โปรแกรมที่ใช้ในการจัดการกับพาร์ติชั่นของฮาร์ดิสก์ ใช้ในการสร้าง ลบ กำหนดไดรว์ ที่ทำหน้าที่บูตเครื่อง แสดงรายละเอียดของพาร์ติชันบนฮาร์ดิสก์ จะเห็นว่าเป็นโปรแกรมอีกตัวหนึ่งที่ต้องทำความรู้จักและศึกษาวิธีใช้งาน เพราะสามารถใช้ประโยชน์ในการสร้าง ฮาร์ดดิสก์ให้มีหลาย ๆ ไดรว์ก็ได้
รูปแบบคำสั่ง
FDISK /STATUS
ตัวอย่างการใช้งานโปรแกรม

A:>\FDISK เริ่มใช้งานโปรแกรม
A:\>FDISK /STATUS แสดงข้อมุลเกี่ยวกับพาร์ติชันบนฮาร์ดดิสก์

FORMAT คำสั่งฟอร์แมตเครื่อง

เป็นคำสั่งใช้จัดรูปแบบของดิสก์ใหม่ คำสั่งนี้ปกติจะใช้หลังการแบ่งพาร์ชันด้วยคำสั่ง FDISK เพื่อให้สามารถใช้งานฮาร์ดดดดิสก์ได้ หรือฝช้ล้างข้อมูลกรณีต้องการเคลียร์ข้อมูลทั้งหมดในฮาร์ดิสก์
รูปแบบคำสั่ง
FORMAT drive: [/switches]
/Q ให้ฟอร์แมตแบบเร็ว ซึ่งจะใช้เวลาน้อยลง (Quick Format)
/S หลังฟอร์แมตแล้วให้คัดลอกไฟล์ระบบลงไปในไดรว์นั้นด้วย เพื่อให้ไดรว์ที่ทำการฟอร์แมตสามารถบูตได้
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

A:\>FORMAT C: /S ฟอร์แมตไดรว์ C แล้วให้คัดลอกไฟล์ระบบลงไปในไดรว์ด้วย
C:\>FORMAT A: /Q ฟอร์แมตไดรว์ A แบบ Quick Format

MD คำสั่งสร้างไดเร็คทอรี
MD (Make Directory) เป็นคำสั่งที่ใช้ในการสร้างไดเร็คทอรี คำสั่งนี้จะช่วยให้สามารถสร้างไดเร็คทอรีชื่ออะไรก็ได้ที่เราต้องการ แต่ต้องมีการตั้งชื่อที่อยู่ในกฎเกณฑ์ของ Dos
รูปแบบคำสั่ง
MD [drive:] path
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

D:\> MD TEST สร้างไดเร็คทอรี TEST ขึ้นมาในไดรว์ D
D:\>DOC\MD TEST สร้างไดเร็คทอรีที่ชื่อ TEST ขึ้นมาภายในไดเร็คทอรี DOC

REN (RENAME) คำสั่งเปลี่ยนชื่อไฟล์
เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเปลี่ยนชื่อไฟล์ และส่วนขยาย โดยคำสั่ง REN นี้ไม่สามารถใช้เปลี่ยนชื่อไดเร็คทอรีได้
รูปแบบคำสั่ง
REN [ชื่อไฟล์เดิมล [ชื่อไฟล์ใหม่]
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\REN BOS.DOC ANN.DOC เปลี่ยนชื่อไฟล์ BOS.DOC ในไดรว์ C เป็น ANN.DOC
C:\REN C:\MAYA\BOS.DOC PEE.DOC เปลี่ยนชื่อไฟล์ BOS.DOC ในไดเร็คทอรี MAYA ให้เป็น PEE.DOC
C:\REN A:*.*TEX *.OLD เปลี่ยนส่วนขยายของไฟล์ชนิด TXT ทุกไฟล์ในไดรว์ A ให้เป็น OLD

SCANDISK
คำสั่ง SCANDISK เป็นคำสั่งตรวจสอบพื่นที่ฮาร์ดดิสก์ สามารถใช้ในการตรวบสอบปัญหาต่าง ๆ ได้ และเมื่อ SCANDISK ตรวจพบปํญหา จะมีทางเลือกให้ 3 ทางคือ FIX IT , Don't Fix IT และ More Info ถ้าไม่เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นให้เลือก More Info เพื่อขอข้อมูลเพิ่มก่อนตัดสินใจต่อไป
ถ้าเลือก FIX IT จะเป็นการสั่งให้ Scandisk ทำการแก้ไขปัญหาที่พบ ถ้าการซ่อมแซมสำเร็จโปรแกรมจะมีรายงานที่จอภาพให้ทราบ ส่วน Don't Fix IT คือให้ข้ามปัญหาที่พบไปโดยไม่ต้องทำการแก้ไข
รูปแบบคำสั่ง
SCANDISK [Drive:]/AUTOFIX
/AUTOFIX ให้แก้ไขปัญหาโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

A:\>SCANDISK C: ทำการตรวจสอบปัญหาในไดรว์ C
A:\>SCANDISK D:/AUTOFIX ทำการตรวจสอบปัญหาในไดรว์ D และแก้ไขอัตโนมัติ
Type คำสั่งดูข้อมูลในไฟล์
Type เป็นคำสั่งที่ใช้แสดงเนื้อหาภายในไฟล์บนจอภาพ คำสั่งนี้จะใช้ได้กับไฟล์แบบ Text ส่วนไฟล์โปรแกรมต่าง ๆ จะไม่สามารถอ่านได้
รูปแบบคำสั่ง
TYPE [ชื่อไฟล์ที่ต้องการอ่าน]
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\>Type AUTOEXEC.BAT แสดงเนื้อหาภายในไฟล์ AUTOEXEC.BAT
C:\>NORTON\TYPE README.TXT แสดงเนื้อหาภายในไฟล์ README.TXT ในไดเร็คทอรี NORTON

XCOPY คำสั่งคัดลอกทั้งไดเร็คทอรีและทั้งหมดในไดเร็คทอรี
XCOPY เป็นคำสั่งที่ใช้ในการคัดลอกไฟล์ได้เหมือนคำสั่ง COPY แต่ทำงานได้เร็วกว่า และสามารถคัดลอก ได้ทั้งไดเร็คทอรีและไดเร็คทอรีย่อย
รูปแบบคำสั่ง
XCOPY [ต้นทาง] [ปลายทาง] /S /E
/E ให้คัดลอกไดเร็คทอรีย่อยทั้งหมดรวมถึงไดเร็คทอรีย่อยที่ว่างเปล่าด้วย
/S ให้คัดลอกไดเร็คทอรีย่อยที่ไม่ว่างเปล่าทั้งหมด
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง

C:\>XCOPY BACKUP F: /S /E คัดลอกทุกไฟล์และทุกไดเร็คทอรีย่อย BACKUP ไปไว้ในไดรว์ F
C:\>PRINCE>XCOPY *.VSD A: คัดลอกทุกไฟล์ที่มีนามสกุล VSD ในไดเร็คทอรี PRINCE ไปที่ไดรว์ A

ข้อความแจ้งปัญหาในดอส
ในการทำงานบนดอสบางครั้งก็เกิดปัญหาได้บ่อย ๆ เหมือนกัน ซึ่งการเกิดปัญหาแต่ละครั้งก็จะมีข้อความแจ้งให้ทราบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุจากอะไร ต่อไปนี้เป็นข้อความแจ้งปัญหาที่มักพบได้บ่อย ๆ มีดังนี้
Abort, Retry, Fail ?
จะพบได้ในการณีที่ไดรว์ไม่มีแผ่นดิสก์อยุ่แล้วเรียกใช้ข้อมูลจากไดรว์นั้น การแก้ไขก็นำแผ่นดิสก์ที่ต้องการใช้มาใส่เข้าไป

กดปุ่ม < R > (Retry) : การทำงานจะทำต่อจากงานที่ค้างอยู่ก่อนเกิดความผิดพลาด
กดปุ่ม < A > (Abort) : รอรับคำสั่งจะไปอยู่ในไดรว์ที่สั่งงานล่าสุด
กดปุ่ม < F > (Fail) : เมื่อต้องการยกเลิกการทำงาน และเปลี่ยนไดรว์ใหม่

Bad Command or file name : ใช้คำสั่งผิดหรือไฟล์ที่เรียกใช้งานนั้นไม่สามารถเรียกใช้ได้ การแก้ไข ตรวจสอบบรรทัดคำสั่งว่าถูกต้องหรือไม่ เช่น พิมพ์คำสั่งหรือชื่อไฟล์ถูกต้องหรือไม่ แล้วลองรันคำสั่งดูใหม่อีกครั้ง อาจเกี่ยวข้องกับเวอร์ชันของดอสไม่มีคำสั่งนั้นก็ได้

File not found : ไม่สามารถหาไฟล์นั้นพบ อาจไม่มีไฟล์นั้น หรืออาจพิมพ์ชื่อไฟล์นั้นนผิดจากที่ต้องการ นอกจากนี้อาจเกิดจากพาธ (Path) ที่สั่งงานไม่มีไฟล์นั้น

Insufficient memory หรือ Out of memory Insufficient memory : หน่วยความจำไม่พอต่อความต้องการของโปรแกรม

Out of memory : โปรแกรมเริ่มทำงานไปแล้วบางส่วนแล้วหน่วยความจำไม่พอ ระบบจึงต้องแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ

Directory already exits : เกิดขึ้นเมื่อสร้างไดเร็คทอรีแล้วไปซ้ำกับซื่อที่มีอยู่แล้วในพาธเดียวกัน

Duplicate file ot file not found : ถ้าเปลี่ยนชื่อไฟล์ไปซ้ำกับชื่อที่มีอยู่จะทำไม่ได้และจะแจ้งเตือนดังข้อความดังกล่าว

InSufficient Disk space : ข้อความนี้จะเกิดขึ้นเมื่อดิสก์ไม่เพียงพอต่อการเก็บข้อมูล วิธีแก้ ลองใช้ดิสก์อื่นหรือลบไฟล์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ออก









PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT

Javascript เช็คค่าว่าง

Javascript เช็คค่าว่าง



alert javascript

วันนี้  โปรแกรมเมอร์กากกาก  จะมาบอกวิธีการเช็คค่าว่าง ด้วย javascript  ในที่นี้ผมใช้ dreamweaver ในการเขียน code นะครับผมก็ขอ copy มาหมดเลยนะครับอาจจะรกๆไปบ้าง เราลองมาดู Code กันเลยนะครับ  

code  Javascript เช็คค่าว่าง


<script language="javascript"> // เปิดแท็กเพื่อใช้งาน javascript
      function checkNull(){  //ชื่อ function ตั้งได้ตามความสดวกของเราได้เลยครับ
  var forms=document.form1;  //ผมสร้างตัวแปรมาเพื่ออ้างถึง form ครับ
  if(forms.username.value == "" ){ //เช็ค if ใน textfile ที่กำหนด ตรง .value == "" คือถ้าเป็นค่า null ก็ให้ทำงานภายใน if นี้.
     alert('กรุณากรอก Username');  //สั่งให้ขึ้นข้อความที่ต้องการ
     forms.username.focus();  //เพิ่มความฉลาดให้โปรแกรมโดยการให้ cursor วิ่งไปในช่องที่ว่างอยู่  
     return false;  //return false เป็นการไม่ให้โปรแกรมหรือหน้าเว็บเราทำงานต่อ
  }
  else if (forms.password.value == ""){
 alert('กรุณากรอก Password');  //สั่งให้ขึ้นข้อความที่ต้องการ
     forms.password.focus();  //เพิ่มความฉลาดให้โปรแกรมโดยการให้ cursor วิ่งไปในช่องที่ว่างอยู่  
     return false;  //return false เป็นการไม่ให้โปรแกรมหรือหน้าเว็บเราทำงานต่อ
  }

}
</script>//ปิดแท็ก



เมื่อ นำ Code javascript มารับกับ html ที่เราเขียนไว้จะได้ดังนี้(ผมใช้ dreamweaver เขียนนะครับ Code อาจจะรกๆ)


<!DOCTYPE html PUBLIC "-//W3C//DTD XHTML 1.0 Transitional//EN" "http://www.w3.org/TR/xhtml1/DTD/xhtml1-transitional.dtd">
<html xmlns="http://www.w3.org/1999/xhtml">
<head>
<meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8" />
<title> Check null</title>

<script language="javascript">
      function checkNull(){ 
  var forms=document.form1
  if(forms.username.value == "" ){
     alert('กรุณากรอก Username'); 
     forms.username.focus(); 
     return false; 
  }
  else if (forms.password.value == ""){
 alert('กรุณากรอก Password'); 
     forms.password.focus();    
     return false;  
  }

}
</script>
</head>

<body>

    <form  name="form1" method="post" action=""  onsubmit="javascript:return checkNull();">
            <input type="text" id="username"  name="username">
            <input type="password" id="password"  name="password" >
            <button type="submit" name="lgin"  value="Sign in" >Sign in</button>
            </form>   

</body>
</html>



แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จสำหรับ Javascrirp เช็คค่าว่างนะครับ     และในส่วน   onsubmit="javascript:return checkNull();  เป็นการเรียกใช้งาน function  และในส่วนของ form1 , username,password  ที่ผมทำสีเขียวไว้นั้น  เพื่อให้เข้าใจง่ายว่า  ชื่อที่ใช้ในการอ้างอิงนั้นจะต้องตรงกัน เพราะท่านอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ในชื่อต่างๆได้    สำหรับบทความนี้ก็ขอจบไว้เพียงแค่นี้ครับ







PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT



โปรแกรมเมอร์(Programmer) หมายถึง


โปรแกรมเมอร์(Programmer) หมายถึง


เอดา ไบรอน เลิฟเลซ (Lady Augusta Ada Byron, Coutress of Lovelace)
เอดา ไบรอน เลิฟเลซ (Lady Augusta Ada Byron, Coutress of Lovelace) 
สำหรับบทความแรกของ โปรแกรมเมอร์กากกาก นะครับ เรามาทำความรู้จักกับคำว่า โปรแกรมเมอร์กันว่ามีความหมายอย่างไร  และหมายถึงบุคคลประเภทไหน  มีบทบาทหน้าที่อย่างไรบ้าง
               โปรแกรมเมอร์ (อังกฤษ: programmer) มีหน้าที่หลักคือการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งโปรแกรมเมอร์สามารถหมายถึงผู้ที่เชี่ยวชาญในการโปรแกรมเฉพาะด้าน หรือผู้ที่สามารถเขียนโค้ดได้สำหรับหลากหลายซอฟต์แวร์ เอดา ไบรอน(ตามรูปด้านบน)  ได้ชื่อว่าเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก เพราะเป็นคนแรกที่สามารถนำขั้นตอนวิธี มาเรียบเรียงเป็นชุดคำสั่ง ให้กับเครื่องคำนวณได้ในปี พ.ศ. 2385 (ค.ศ. 1842) ในยุคที่ยังไม่มีเครื่องคอมพิวเตอร์)

                 เราลองมาทำความรู้จักกับ เอดา ไบรอน โปรแกรมเมอร์คนแรกกันดีกว่าว่า ประวัติความเป็นมาของเขานั้นมีความเป็นมาอย่างไร  ขอบข้อมูลจาก www.programmer.in.th
                 เอดา ไบรอน เลิฟเลซ (Lady Augusta Ada Byron, Countess of Lovelace) โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก[1] เป็นบุตรสาวของ ลอร์ด ไบรอน (Lord Byron) เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2358 (ค.ศ. 1815) หลังจากเธอเกิดไม่นาน พ่อแม่ของเธอก็แยกทางกัน แม่ของเอดา จึงตัดสินใจเลี้ยงดูเธอให้เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ และให้ศึกษาด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ต่างไปจากกุลสตรีในตระกูลใหญ่ๆ ของอังกฤษทั่วไป
พออายุ 17 ปี ก็มีผู้แนะนำให้เอดารู้จัก Mrs. Somerville แห่งเคมบริดจ์ ผู้หญิงเก่งแห่งยุค ที่เคยแปลงานของ Laplace มาเป็นภาษาอังกฤษ เอดาจึงเข้ามาคลุกคลีกับเพื่อนกลุ่มนี้ จนได้รู้จักกับ ชาลส์ แบบบิจ ในงานสังสรรค์แห่งหนึ่ง ในที่สุด ในงานวันนั้น ตอนที่แบบบิจกล่าวว่า “what if a calculating engine could not only foresee but could act on that foresight” (จะเป็นอย่างไร ถ้าหากเครื่องคำนวณไม่เพียงสามารถหยั่งรู้ได้ หากแต่สามารถตอบสนองต่อการหยั่งรู้นั้นได้ด้วย) ไม่มีใครสนใจแนวคิดนี้ของแบบบิจเลย ยกเว้นเอดา ซึ่งเธอรู้สึกสนใจในงานนี้เป็นอย่างมาก จนอาสาที่จะช่วยพัฒนา โดยสิ่งที่เธอทำคือ การสร้างภาษาสำหรับเครื่องวิเคราะห์[2] (analytical engine) ของแบบเบจ
หลังจากนั้นไม่นาน เอดาได้แต่งงานกับท่านเอิร์ลแห่ง เลิฟเลซ และมีบุตรด้วยกันสามคน
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ทั้งเอดาและแบบบิจ ยังเป็นเพื่อนกันทางจดหมาย และแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องเครื่องวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอ โดยจดหมายของทั้งสองถูกเก็บไว้อย่างดีในยุคนี้ เพราะมีข้อมูลน่าสนใจมากมาย (ทั้งเรื่องจริง และจินตนาการ) เช่น เอดาบอกว่า เธอเชื่อว่าต่อไปเครื่องมืออันนี้ จะมีความสามารถที่จะแต่งเพลงที่ซับซ้อน สร้างภาพกราฟิก นำมาใช้เพื่อการคำนวณขั้นสูง และพัฒนาวงการวิทยาศาสตร์ได้ ในจดหมายฉบับหนึ่ง เอดาแนะนำแบบบิจว่า ให้ลองเขียนแผนการทำงานของเครื่องมืออันนี้ ให้สามารถคำนวณ Bernoulli numbers ขึ้นมา
ต่อมา แผนการทำงานที่แบบบิจเขียนขึ้นมาชิ้นนั้น ก็ถูกยกย่องว่าเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตัวแรกของโลก เธอจึงได้รับการยกย่องว่าเป็นโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก เอดาก็ช่วยเขียนบรรยาย รายละเอียดการทำงานของเครื่องวิเคราะห์ แต่สุขภาพของเธอก็เริ่มมีปัญหา และสุดท้ายก็เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 37 ปี
อีกร้อยกว่าปีต่อมา ในปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ. 1979) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สร้างภาษาคอมพิวเตอร์มาตรฐาน ISO ขึ้นมาตัวแรก พร้อมตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ เลดี้ เอดา ว่า ภาษา “ADA”
ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ เอดาได้รู้จัก และอาสาช่วยงาน พร้อมทั้งอุปการะ นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ รวมทั้งนักเขียนหลายคน เช่น Sir David Brewster คนคิดคาไลโดสโคป, ชาลส์ วีทสโตน, ชาลส์ ดิกเก้นส์, และ ไมเคิล ฟาราเดย์










PHP | VB | HTML | Javascript | JQuery | SQL | Computer | CSSIT





ป้ายกำกับ

การใช้ PHP ติดต่อฐานข้อมูล MYSQL ในรูปแบบ Class เขียนโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ทิคนิคทำ Flash Drive ปลอดจากไวรัส Computer เทคนิก การสลับสีตารางด้วย PHP เทคนิก selected php โปรแกรมเมอร์หมายถึง พิกัด ค่า latitude และ longitude ใน Google Map จากการคลิก รวมคำสั่ง Dos ละติจูดลองติจูด วิธทำให้ computer boot windows 7 เร็วขึ้น วิธีการแชร์อินเตอร์เน็ต(Internet) Wireless วินโดว์ 7(Windows 7) วิธีแก้ไวรัส ซ่อนไฟล์ แฟลชไดรฟ์ วิธีแก้ IDM(INTERNET DOWLOAD MANAGER)เด้งฟ้อง เด้งเตือน วิธีแชร์ปริ้นเตอร์บนวินโดว์8 (windows8) วิธีทำ Flashdrive boot Windows จากไฟล์ ISO วิธีล้างหัวพิมพ์ printer canon วิธีส่ง อีเมล์ ด้วย PHP (PHP Send email) สอนทำตัว Setup VB 2008 add printer ไม่ได้ และ Printer Error boot windows 7 เร็วขึ้น computer CSS CSS เบื้องต้น (การใช้ Css เพื่อให้ Table ดูดีขึ้น) CSS พื้นฐาน Flash Drive HTML IDM IT javascript Javascript เช็คค่าตัวเลข Javascript เช็คค่าว่าง javascript เช็ค Email ไม่ถูกต้อง javascript หาตำแหน่ง ละติจูด ลองติจูด ปัจจุบันที่เราอยู่ JQuery JQuery คือ jquery เช็คค่าว่าง Jquery dialog or popup(เจคิวรี่ ไดอะล็อก หรือ ป๊อปอัพ) JQuery dynamic texbox jQuery Effects PHP PHP เบื้องต้น PHP และ CSS Dynamic HTML Web pages using ตอนที่ 1 PHP connect Database และ Select ข้อมูลเบื้องต้น PHP DELETE ข้อมูล PHP MySQL กับ Login Form แบบใช้ session PHP OOP PHP upload รูปภาพ printer sharing printer SQL SQL สร้างฐานข้อมูล VB VB 2008 โปรแกรมดูทีวีออนไลน์ vb 2008 connect database oracle Windows Windows7 แก้ปัญหา Set Printer